GATI2015 Part 8 : Trip Day 7 – Free Day in Tokyo
Category : GATI2015
Part นี้เกี่ยวข้องกับ : Asakusa / Sensoji / Ueno / Akihabara / Ikebukuro / Kaiten Sushi (ซูชิสายพาน) –> สนใจโปรดคลิกเข้ามาอ่านครับ
วันนี้เป็น Free Day ก็แล้วแต่แต่ละครอยากจะไปเที่ยวไหนกัน แผนที่วางไว้ของผมสำหรับวันนี้เป็นดังนี้
- ตั้งแต่ตื่น ก็ไปเริ่มที่ วัด Sensoji แล้วก็เดินเล่นแถว Asakusa
- ต่อจากนั้นก็ไป Ueno เดิน ตลาด Ameyoko แล้วก็ตึกม่วง
- ต่อจากนั้นก็ไป Akihabara เดินเล่น
- ต่อจากนั้นกลับบ้านมาเก็บของ ที่ซื้อมาทั้งวัน แล้วก็เอาของไปให้ เซนเซ ที่เคยสอนญี่ปุ่นที่ไทย ตอนนี้เขากลับญี่ปุ่นแล้ว ก็นัดเจอกับเซนเซ
- เดินทางไปจุดนัดพบให้ทัน 6 โมงเย็นที่ Ikebukuro
- กินข้าวกับเซนเซ
แผนที่ว่าจะเริ่มต้นที่ Asakusa เหมือนจะเริ่มต้นที่นี่ทุกคน เลยกะจะออกไปด้วยกัน แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นไปตามที่ฝัน … วันนี้เป็นวันที่ผมเลือกที่จะไม่ตั้งนาฬิกาปลุก กะว่า ตื่นเมื่อไรก็ออกเมื่อนั้น แล้วก็พอมาถึงตอนเช้า กี่โมงจำไม่ได้ เอมม่าตื่นอีกแล้ว ก็ปลุก … อีกแล้ว จริงๆตื่นแล้วหละ แต่มีคนนอนต่อ เลยนอนต่อด้วย สรุปแล้วตอนเช้า เอ็มม่าได้ออกไปกับแค่ ปลาดาวกับใบพลู แก๊ง 3 คน ออกไปแต่เช้าเลย ที่เหลือนอนต่อ … พอตื่น เกือบเที่ยง ก็ตื่นมาล้างหน้ากินข้าวแล้วเตรียมจะออก ตอนนี้มีตื่น 4 คน ผม เลนส์ นพ และพี่มะเหมี่ยว แต่ว่าพี่มะเหมี่ยวแยกเส้นทางไปทางอื่น … อาหารเช้าวันนี้ไม่เสียเงินเพราะเอาของเหลือจาก Farewell Party เมื่อคืนกลับบ้านมาอุ่นกิน แล้วก็ถือว่าเป็นอาหารเช้า + เที่ยงไปในมื้อเดียวเลย แล้วก็ออกไป Asakusa ตอนเกือบเที่ยง
สรุปแก๊งที่ไปด้วยกัน มี 3 คน ผม เลนส์ นพ เริ่มไปที่ Asakusa เดินทางโดยรถไฟที่คุ้นเคย คราวนี้เดินทางโดยเปิดแผนที่เอาเลย … ไหนๆมาถึงแล้ว ก็ ถ่ายรูปกันข้างหน้าซะหน่อย หน้า Kaminarimon
พอผ่านเข้า Kaminarimon แล้วก็จะเจอถนน Nakamise หรือถนนที่เขาขายของกัน เดินดูมีขนมแปลกๆ แล้วก็ของแปลกๆขายด้วย แล้วที่นี่เขาห้ามเดินกิน เพราะฉะนั้นถ้าซื้อขนมจากร้านไหนแล้ว ก็ต้องยืนกินกันบริเวณร้านให้หมดก่อนแล้วค่อยเดินต่อ
แล้วก็เจอ Cremia อีกแล้ว เพื่อนยังไม่เคยกิน ก็เลยซื้อมากินด้วย ที่นี่ 550 เยนเหมือนกัน
เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอทางเข้า Sensoji ก็เข้าไปเดินเล่นข้างในซะหน่อย
ต่อจากนี้ก็นั่งรถไฟไปลง Ueno เดินเล่น ตลาด Ameyoko ทางเข้าอยู่ตรงแถวๆ ทางออกจากรถไฟเลย เดินข้ามถนนมาก็เจอเลย เดินๆไป ผมแยกทางกับเพื่อนๆตรงนี้แหละ เพราะมันบ่ายมากแล้ว กลัวไปไม่ทันนัดเซนเซ ก็แยกย้ายกัน ตอนนี้เหลือผมคนเดียวแล้วนะ เดินไปสุดตลาด Ameyoko เลี้ยวขวา ก็จะเจอ ตึกม่วง หรือ Takeya แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา ก็ได้ขนมมาเยอะแยะอีกแล้วๆ แต่ลืมถ่ายรูปมา อดเห็นกันเลย เลยเอาส่วนหนึ่งของแผ่นพับให้ดูก่อน
หลังจากตรงนี้ก็นั่งรถไฟไป Akihabara แต่ทางใต้ดินนี่เดินไกลอยู่นะ สถานีมัน งงๆ อยู่ พอถึง Akihabara ก็เจอกับ แจ๊บ อีกแล้ว แจ๊บฝากกันดั้มไปให้เพื่อน เนื่องจากไม่มีอะไรเจาะจงที่จะซื้อที่นี่เปนพิเศษ อยากลองมาเดินดูเฉยๆว่ามีไรมั่ง ก็เดินวนๆรอบนึง
แล้วก็แวะไปดูกันดั้มคาเฟ่ นิดนึง
แล้วก็ ฝนตกปรอยๆ เอ่อ ฝน… เลยรีบกลับไปเก็บของ เยอะมาก ก็พาแจ๊บไปเก็บของเป็นเพื่อนด้วย เพราะเดี๋ยวแจ๊บจะไปกินข้าวกับเซนเซด้วย เพราะเคยเรียนกับเซนเซมาเหมือนกัน ก็ไปเก็บของแล้วรีบหยิบของที่จะฝากเซนเซออกมา แล้วก็ไปนั่งรถไฟไป Ikebukuro พอถึง Ikebukuro ก็เจอเซนเซ ซึ่งให้ไปหาที่ชั้นเท่าไรจำไม่ได้แล้ว ของ Seibu มีร้านซูชิอร่อยมาก
แต่ไม่ได้ถ่ายคิวมาให้ดู นั่งรอคิวอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง นั่งคุยเล่นรอนานมากๆๆๆ สุดท้ายก็ได้กิน 回転すし (Kaiten sushi) หรือซูชิสายพาน
ราคาก็ขึ้นอยู่กับสีจาน มีตั้งแต่ 100 เยน ถึง 500 เยน นอกจากนี้สามารถสั่งจากเครื่องได้ด้วย
แล้วที่สั่งไปเขามาส่งยังไงเหรอ นี่ไง รถด่วนพิเศษรางบน พอมาส่งแล้วจะมีเสียงเตือน พอเรารับของเสร็จแล้วก็กดปุ่ม ให้รถด่วนเขาเคลื่อนที่กลับไปเพื่อรับของส่งให้คนอื่นต่อ
นี่ถ้วยน้ำชา เป็นชื่อปลาประเภทต่างๆด้วย ความรู้จากเซนเซวันนี้ ที่ร้านซูชิ จะเรียก น้ำชาว่า あがり (Agari) อันนี้ไม่รู้ว่ามาจากคำสุภาพของดื่มหรือปล่าว 召し上がります (Meshiagarimasu) อันนี้ไม่รู้
แล้วก็เซนเซก็ถามว่า ビールを飲みますか。กินเบียร์ไหม 555 ก็ตอบไปว่าไม่กิน เซนเซเลยสั่งเบียร์มากิน 3 คน แต่ว่า กดผิด เป็นเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์ เขาเลยเทให้กิน ก็ไหนๆไม่มีแอลกอฮอล์ ก็กินๆ รสชาติเหมือนเบียร์จริงๆเลย หลายคนคงสงสัยว่าทำไมไม่กินแอลกอฮอล์ จริงๆกินได้ และเคยกินมาทั้งนั้นหละ แต่ว่าด้วยปกติ ความดันค่อนข้างสูงกว่าปกติ เลยไม่กล้ากิน แต่นานๆทีก็ไม่เป็นไรมั้ง 555
แล้วก็เซนเซถามว่า 納豆を食べられますか。กินนัตโต้ได้ไหม ก็ตอบไปว่า 食べたことがないので、食べられるかどうかわかりません。ยังไม่เคยกินเลยไม่รู้ว่ากินได้ไหม 555 แจ๊บก็เช่นกัน เซนเซเลยสั่งมาให้ชิม บอกว่าเป็น チャレンジ (Challenge) คือมันก็เหนียวๆ รสสัมผัสไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไร แต่ก็พอกินได้
แล้วก็ตามธรรมเนียมถ่ายรูปกันหน่อย
เวลาเขาคิดเงิน เขาเอาเครื่องอะไรไม่รู้มาสแกนตัวจาน แล้วก็จะออกมาเป็นราคาเลย โหดจริงเทคโนโลยีที่นี่ ที่จานเขาเหมือนจะมีชิปอะไรอยู่ ราคาค่อนข้างแพงอยู่ แต่อร่อย หลังจากนั้นให้เซนเซพาไปร้านหนังสือ อยากไปดูหนังสืออยากได้ หนังสือข้อสอบวัดระดับไรงี้ ก็เดินไป แต่เหลือประมาณ 5 นาทีก่อนเขาปิด โชคดีมากที่ไปทัน ก็ได้เดินดูๆได้หนังสือมา 2 เล่ม (จริงๆพรุ่งนี้ก็แวะมาดูอีก) แล้วก็ไปเดินเล่น ดองกี้ กับแจ๊บต่ออีกนิดนึง แล้วก็กลับบ้าน กลับถึงบ้านทุกคนกลับมาหมดแล้ว ก็เตรียมตัววางแผนกันว่า วันต่อไปจะไปไหนกัน ส่วนใหญ่จะเป็นเก็บตกสิ่งที่อยากทำ เช่น ซื้อของฝาก หรือไปดูนั้นนี่ เป็นต้น แล้วก็วางแผนที่จะไปสนามบินกัน
ตอนต่อไปเกี่ยวกับ เก็บตกต่างๆ แล้วก็การเดินทางเข้าสนามบินนาริตะ แล้วก็การเดินทางกลับกรุงเทพ
ติดตามตอนอื่นๆได้ที่นี่